ทั้งที่พวกเราเหลือกันอยู่ไม่กี่คนสุดท้ายแล้ว ก็ยังมีคนพยายามจะแซงคิว
พนักงานขายตั๋วก็เลยพูดเสียงดังใส่สองคนที่จะแซงคิวว่า “เราไม่ขายให้พวกคุณสองคน” ชายร่างใหญ่สองคนจากไปอย่างไม่พอใจ จากนั้นเราก็เข้าไปได้อย่างราบรื่น เพราะมาทำงานนอกสถานที่ที่เซี่ยงไฮ้ เลยฉวยโอกาสช่วงค่ำซึ่งว่างจากธุระแอบหาจังหวะโทรหา C ซึ่งอยู่ที่เซี่ยงไฮ้เช่นกัน เรารู้จักกันตั้งแต่ปีสี่จนถึงตอนนี้ คุยแชทกันบ้างนานๆ ครั้ง เลยนัดกันออกมาเดินเล่นแบบนี้แหละ
ข้างในยิ่งใหญ่อลังการมาก ธงนานาชาติที่จุดเริ่มต้นนั้นน่าทึ่งมาก แต่เนื่องจากมาช่วงดึกหลายจุดจึงเข้าไปไม่ได้ (แบมือ)
ถัดมาคืออาคารจัดแสดงหลักของประเทศจีน (ตะลึง)
และยังมีอีกหลายที่นับไม่ถ้วนซึ่งประเมินมูลค่าไม่ได้ ช่างละลานตา ทำเอาตาพร่าตาลายกันไปเลยทีเดียว
ตอนพวกเรามาถึง อาคารจัดแสดงเหล่านี้…ปิดหมดแล้ว (แบมือ) อาคารจัดแสดงประเทศจีนยังคงคิวยาวเหยียดอยู่ ก่อนงานปิดตอนสองทุ่ม ผมว่าก็คงไม่ถึงคิวผมหรอก ดังนั้นผมเลยเข้าไปชมอาคารจัดแสดงของประเทศโอมานและปากีสถาน เนื่องจากคนค่อนข้างน้อย จึงเข้าไปได้อย่างราบรื่น
อาคารจัดแสดงประเทศโอมาน
อาคารจัดแสดงประเทศปากีสถาน
หลังจากนั้นผมก็กินบะหมี่ปากีสถานที่รสชาติงั้นๆ จานหนึ่ง (ส่ายหน้า)
แน่นอนว่าต้องมีไต้หวัน (ภูมิใจ)
แต่ว่าเข้าไปไม่ได้แล้ว (ดึกเกินไป) ได้แต่ยืนมองไช่อีหลินอยู่ด้านนอก
บอกได้คำว่าเดียวเลยว่านวัตกรรมด้านฮาร์ดแวร์ของประเทศนี้ล้ำหน้ามาก น่าเสียดายแทนที่คนยังแซงคิวกัน ซึ่งผมคิดว่าคงมีจำนวนไม่น้อยเลยล่ะ แน่นอนว่าหากเทียบในเชิงอัตราส่วนก็ยังคงถือว่าต่ำ แต่ก็เจออยู่เป็นประจำไหมล่ะ? เจอบ่อยสุดๆ แม้แต่เวลาซื้อของในซุปเปอร์มาร์เก็ตก็ยังมีคนชอบแซงคิว